ไปที่ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับบริการที่มีให้กับโครงสร้างพื้นฐานของบัญชีใหม่

ข้อตกลง Google Workspace ผ่านตัวแทนจำหน่ายฉบับนี้ (“ข้อตกลง”) ทำขึ้นโดยและระหว่าง Google กับบุคคลหรือนิติบุคคลที่ยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ (“ลูกค้า”) “Google” หมายถึง (1) Google Asia Pacific Pte. Ltd. ซึ่งมีสำนักงานที่ 70 Pasir Panjang Road, #03-71, Mapletree Business City II Singapore 117371 หากที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของลูกค้าอยู่ในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นลูกค้าที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ซึ่งจะมีการระบุต่อไปด้านล่าง หรือ (2) Google Australia Pty Ltd. ซึ่งมีสำนักงานที่ Level 5, 48 Pirrama Road, Pyrmont, NSW 2009 Australia หากที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของลูกค้าอยู่ในออสเตรเลีย สำหรับลูกค้าที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในนิวซีแลนด์ ข้อตกลงนี้จัดทำและทำร่วมกันระหว่างลูกค้าและ Google New Zealand Limited ที่มีสำนักงานอยู่ที่ PWC Tower, Level 27, 188 Quay Street, Auckland, New Zealand 1010 ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายบริการที่ได้รับอนุญาตในนิวซีแลนด์ “Google” หมายถึง Google Asia Pacific Pte. Ltd. และ/หรือบริษัทในเครือ (รวมถึง Google New Zealand Limited) ตามบริบท

  • ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ลูกค้าคลิกปุ่ม “ฉันยอมรับ” ด้านล่าง หรือ ณ วันที่มีการลงนามในข้อตกลงนี้ ตามกรณีที่เหมาะสม (“วันที่มีผล”) หากคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของลูกค้า ถือว่าคุณรับรองและรับประกันว่า (1) คุณมีอำนาจตามกฎหมายเต็มที่ในการลงนามผูกพันผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่นภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ (2) คุณอ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงนี้แล้ว และ (3) คุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของบุคคลหรือฝ่ายที่คุณเป็นตัวแทน ถ้าคุณไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะลงนามผูกพันแทนลูกค้า โปรดอย่าคลิกปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง (หรือในกรณีที่เหมาะสม โปรดอย่าลงชื่อในข้อตกลงนี้) ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้กับการเข้าถึงและการใช้บริการของลูกค้า

    • 1 บริการ

      • 1.1 หน่วยงานและการโอนข้อมูล หน่วยงานทั้งหมดที่ใช้เพื่อเก็บและประมวลผลข้อมูลลูกค้าจะปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างสมเหตุสมผล มีการป้องกันไม่น้อยกว่ามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานที่ Google ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลของตนเองที่มีประเภทคล้ายกัน Google จะใช้ระบบและกระบวนการที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นอย่างน้อยเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูลของลูกค้า ป้องกันภัยคุกคามหรืออันตรายที่คาดไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูลของลูกค้า และป้องกันการเข้าถึงหรือการใช้งานข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในฐานะส่วนหนึ่งของการให้บริการ Google อาจมีการโอนย้าย จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ที่ Google หรือตัวแทนมีหน่วยงานอยู่ เมื่อใช้บริการ ถือว่าลูกค้ายินยอมให้มีการโอน ประมวลผล และเก็บข้อมูลลูกค้าดังที่กล่าวมา

      • 1.2 การแก้ไข

        • a. บริการ Google อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงบริการอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ตามวาระโอกาสต่างๆ หาก Google ดำเนินการเปลี่ยนแปลงกับบริการอย่างเป็นรูปธรรม Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ หากลูกค้าได้สมัครรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับ Google

        • b. กับข้อกำหนดของ URL Google อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์กับข้อกำหนดของ URL ในบางโอกาส หาก Google เปลี่ยนแปลงเนื้อหาในข้อกำหนดของ URL อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยการส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลสำหรับการแจ้งเตือนหรือการเตือนลูกค้าผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ หรือจะแจ้งให้ตัวแทนจำหน่ายทราบ ถ้าการเปลี่ยนแปลงมีผลเสียอย่างเป็นรูปธรรมกับลูกค้าและลูกค้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ Google ทราบทางศูนย์ช่วยเหลือภายในสามสิบวันนับจากได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลง หากลูกค้าแจ้งแก่ Google ดังที่กำหนด หรือตัวแทนจำหน่ายแจ้ง Google ในนามของลูกค้า ลูกค้าจะยังอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่มีผลก่อนการเปลี่ยนแปลงในทันที จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลา ณ ขณะนั้นสำหรับบริการที่มีผล หากบริการที่มีผลมีการต่ออายุ จะมีการต่ออายุตามข้อกำหนด URL ณ ขณะนั้นของ Google

      • 1.3 ชื่อโดเมนของลูกค้า ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการขอรับและรักษาสิทธิ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานของ Google และลูกค้าของชื่อโดเมนของลูกค้าภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว Google หรือตัวแทนจำหน่ายอาจยืนยันว่าลูกค้าเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิ์ควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า หากลูกค้าไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิ์ควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า ถือว่า Google ไม่มีภาระหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้า

      • 1.4 ข้อกำหนดเฉพาะของบริการ ข้อกำหนดเฉพาะของบริการถือว่าเป็นการรวมไว้ด้วยวิธีการอ้างอิงในข้อตกลงนี้

    • 2 ภาระหน้าที่ของลูกค้า

      • 2.1 การปฏิบัติตามข้อตกลง ลูกค้าจะใช้บริการตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ Google อาจเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน ฟีเจอร์ หรือการทำงานเพิ่มเติมสำหรับบริการในบางโอกาส ซึ่งการใช้งานอาจขึ้นอยู่กับการยินยอมของลูกค้าที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติม นอกจากนี้ Google จะจัดให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace (นอกเหนือจากบริการ) จะใช้งานได้โดยลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace และข้อกำหนดในการให้บริการของ Google เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากไม่ประสงค์จะเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace ลูกค้าเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานได้ตลอดเวลาผ่านคอนโซลการดูแลระบบ ลูกค้ายอมรับว่าการใช้บริการโดเมนจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการโดเมน

      • 2.2 การดูแลระบบบริการโดยลูกค้า ลูกค้าระบุผู้ดูแลระบบ 1 คนหรือหลายคนผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบได้ ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบและดูแลบัญชีของผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายจะต้องรับผิดชอบต่อ (ก) การรักษาความลับของรหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบ (ข) การมอบหมายบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ และ (ค) ดำเนินการให้มั่นใจว่ากิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับบัญชีผู้ดูแลระบบจะเป็นไปตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ายอมรับว่าความรับผิดชอบของ Google ไม่รวมถึงการจัดการภายในหรือการดูแลบริการสำหรับลูกค้า และ Google เป็นเพียงผู้ประมวลผลข้อมูลเท่านั้น

      • 2.3 ความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ผู้ดูแลระบบของลูกค้าอาจเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้งาน หรือเปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้ปลายทางใช้งานได้ภายในบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าจะขอรับและรักษาความยินยอมทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้ใช้ปลายทาง เพื่ออนุญาตให้ (i) ลูกค้าเข้าถึง เฝ้าติดตาม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลนี้ และเพื่อให้ Google กำหนดให้ลูกค้าดำเนินการดังกล่าวได้ และ (ii) Google ให้บริการได้

      • 2.4 การใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะใช้ความพยายามที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันการใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยุติการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตที่มีขึ้น ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งแก่ Google โดยทันทีให้ทราบถึงการใช้งานหรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อได้รับทราบ

      • 2.5 ข้อจำกัดในการใช้งาน นอกเหนือจากกรณีที่ Google ให้ความยินยอมแบบเจาะจงเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกค้าต้องไม่ดำเนินการต่อไปนี้หรือใช้ความพยายามอันสมเหตุสมผลทางพาณิชย์เพื่อไม่ให้บุคคลที่สามดำเนินการต่อไปนี้ (ก) จำหน่าย จำหน่ายต่อ เช่าบริการแก่บุคคลที่สาม หรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะเทียบเท่า (เว้นแต่ว่าได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้งในข้อตกลงฉบับนี้) (ข) พยายามทำวิศวกรรมย้อนกลับกับบริการหรือส่วนประกอบใดๆ (ค) พยายามสร้างบริการทดแทนหรือบริการที่ใกล้เคียงผ่านการใช้งานหรือเข้าถึงบริการ (ง) ใช้บริการเพื่อทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (จ) ใช้หรือเข้าถึงบริการในลักษณะที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียม หรือ (ฉ) ใช้บริการในการจัดเก็บหรือโอนข้อมูลใดๆ ของลูกค้าที่มีการควบคุมการส่งออกตามกฎหมายควบคุมการส่งออก

      • 2.6 คำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการตอบกลับคำขอของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการดังนี้ (ก) แจ้งแก่ลูกค้าโดยทันทีว่าได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขอที่สมเหตุสมผลของลูกค้าในการพยายามที่จะคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) ให้ข้อมูลหรือเครื่องมือแก่ลูกค้าตามที่จำเป็นแก่ลูกค้าในการตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สาม ในขั้นต้นลูกค้าจะพยายามหาข้อมูลที่จำเป็นในการตอบสนองคำขอของบุคคลที่สามด้วยตนเอง และจะติดต่อ Google เฉพาะเมื่อขอรับข้อมูลดังกล่าวไม่ได้โดยมีเหตุผลอันสมควร

    • 3 การขอบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ข้อกำหนดในการให้บริการ การขอบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ตลอดจนข้อกำหนดในการให้บริการเริ่มต้นและการต่ออายุ จะขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับตัวแทนจำหน่าย

    • 4 การชำระเงิน ลูกค้าจะจ่ายเงินให้กับตัวแทนจำหน่ายเป็นค่าบริการ ด้วยเหตุนี้ เงื่อนไขการชำระเงินจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย

    • 5 บริการสนับสนุนด้านเทคนิค

      • 5.1 โดยลูกค้า ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะดำเนินการโดยรับภาระค่าใช้จ่ายเอง ในการตอบคำถามและข้อร้องเรียนจากผู้ใช้ปลายทางหรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อแก้ไขปัญหาการสนับสนุนก่อนที่จะยกระดับไปยัง Google

      • 5.2 โดย Google หากลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายไม่แก้ไขปัญหาการสนับสนุนตามข้างต้นไม่ได้ ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่าย (ตามแต่ละกรณีตามข้อตกลงระหว่าง Google และตัวแทนจำหน่าย) จะยกระดับปัญหาไปยัง Google ตามหลักเกณฑ์ TSS Google จะให้บริการ TSS แก่ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่าย (ตามที่เหมาะสม) ตามหลักเกณฑ์ TSS

    • 6 การระงับ

      • 6.1 ของบัญชีผู้ใช้ปลายทางโดย Google หาก Google ทราบการละเมิดข้อตกลงของผู้ใช้ปลายทาง Google อาจร้องขอเป็นการเฉพาะเพื่อให้ลูกค้าระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เกี่ยวข้องนั้นได้ หากลูกค้าปฏิบัติตามคำขอของ Google ในการระงับบัญชีของผู้ใช้ปลายทางไม่ได้ Google อาจดำเนินการเอง ระยะเวลาของการระงับโดย Google จะเป็นการระงับจนกว่าผู้ใช้ปลายทางได้แก้ไขการละเมิดซึ่งทำให้เกิดการระงับนั้นๆ

      • 6.2 ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน ภายในเงื่อนไขข้างต้น ถ้ามีปัญหาการรักษาความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน Google อาจระงับการใช้งานที่เป็นการล่วงละเมิดโดยอัตโนมัติ การระงับจะอยู่ภายในขอบเขตและระยะเวลาต่ำสุดที่จำเป็น เพื่อป้องกันหรือยุติปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน หาก Google ระงับบัญชีของผู้ใช้ปลายทางด้วยเหตุใดก็ตาม โดยไม่ได้แจ้งแก่ลูกค้าล่วงหน้า Google จะให้เหตุผลสำหรับการระงับแก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุดตามที่เหมาะสมแก่เหตุ ตามคำขอของลูกค้า

    • 7 ข้อมูลที่เป็นความลับ

      • 7.1 ภาระหน้าที่ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะ: (ก) คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายด้วยมาตรฐานความระมัดระวังเดียวกับที่ใช้คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของตนเอง ไม่ว่าในกรณีใดๆ และ (ข) ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ยกเว้นสำหรับพันธมิตร พนักงาน และตัวแทนที่จำเป็นต้องทราบ และได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรในการเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (และหน่วยงานในเครือ พนักงาน และตัวแทนที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ) ใช้ข้อมูลที่เป็นความลับเพื่อใช้สิทธิ์และปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงนี้เท่านั้น พร้อมทั้งใช้ความระมัดระวังอย่างสมเหตุสมผลในการคุ้มครองข้อมูล คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการกระทำของหน่วยงานในเครือ พนักงาน และตัวแทนของตนในการละเมิดหัวข้อนี้

      • 7.2 ข้อยกเว้น ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้ (ก) ผู้รับข้อมูลที่เป็นความลับทราบถึงข้อมูลนี้อยู่แล้ว (ข) กลายเป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่ใช่ความผิดของผู้รับ (ค) มีการพัฒนาโดยอิสระโดยผู้รับ หรือ (ง) ผู้รับได้รับมอบโดยชอบธรรมจากบุคคลอื่น

      • 7.3 การเปิดเผยที่กำหนด คู่สัญญาแต่ละฝ่ายเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายได้เมื่อกฎหมายกำหนด และเมื่อกฎหมายอนุญาต เฉพาะเมื่อดำเนินการดังต่อไปนี้แล้ว: (ก) ใช้ความพยายามที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อแจ้งแก่อีกฝ่าย และ (ข) ให้โอกาสอีกฝ่ายเพื่อคัดค้านการเปิดเผยดังกล่าว

    • 8 สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์

      • 8.1 สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ยกเว้นที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในที่นี้ ข้อตกลงนี้ไม่ได้ให้สิทธิ์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งโดยนัยและอื่นๆ สำหรับเนื้อหาของบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ลูกค้าจะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในข้อมูลของลูกค้า และ Google จะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในบริการ

      • 8.2 การแสดงคุณลักษณะตราสินค้า Google อาจแสดงเฉพาะคุณลักษณะตราสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า (การอนุญาตดังกล่าวมาจากการที่ลูกค้าอัปโหลดคุณลักษณะตราสินค้าเข้าสู่บริการ) และภายในพื้นที่ที่กำหนดในหน้าเว็บบริการเท่านั้น ลูกค้าจะระบุลักษณะการใช้งานได้ด้วยการใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบ Google อาจแสดงสิ่งแสดงแบรนด์ของ Google ในหน้าเว็บบริการเพื่อระบุว่า Google เป็นผู้ให้บริการนี้ ทั้งนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายแสดงหรือใช้สิ่งแสดงแบรนด์ของอีกฝ่ายนอกเหนือไปจากที่อนุญาตตามข้อตกลงนี้ไม่ได้ โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย

      • 8.3 ข้อจำกัดเกี่ยวกับคุณลักษณะของตราสินค้า การใช้คุณลักษณะตราสินค้าของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของฝ่ายที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในคุณลักษณะของตราสินค้านั้นๆ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถยกเลิกสิทธิ์ของอีกฝ่ายในการใช้คุณลักษณะของตราสินค้าของตนตามข้อตกลงนี้ พร้อมทั้งแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุระยะเวลาที่จะยุติการใช้งานอย่างสมเหตุสมผล

    • 9 การประชาสัมพันธ์ ลูกค้ายอมรับว่า Google อาจรวมชื่อหรือคุณลักษณะตราสินค้าของลูกค้าในรายชื่อลูกค้าของ Google ทั้งทางออนไลน์และในเอกสารส่งเสริมการขาย และลูกค้ายอมรับด้วยว่า Google อาจอ้างถึงลูกค้าในทางวาจาว่าเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ หัวข้อนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของข้อ 8.3

    • 10 การรับรอง การรับประกัน และข้อจำกัดความรับผิดชอบ

      • 10.1 การรับรองและการรับประกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองว่าตนมีอำนาจและสิทธิ์เต็มที่ในการทำข้อตกลง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการให้หรือใช้บริการ ตามแต่ละกรณี (รวมถึงกฎหมายการแจ้งกรณีการละเมิดความปลอดภัย) Google รับประกันว่าจะให้บริการตามข้อตกลงระดับการให้บริการที่มีผลบังคับใช้

      • 10.2 การจำกัดความรับผิดชอบ ภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดเจนในที่นี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการรับประกันใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ตามกฎหมายหรือในทางอื่นๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการรับประกันคุณค่าการเป็นสินค้า ความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด และการไม่ละเมิดข้อกำหนดต่างๆ Google ไม่ให้การรับรองใดๆ เกี่ยวกับเนื้อหาหรือข้อมูลที่เข้าถึงได้โดยหรือผ่านบริการ ลูกค้ารับทราบว่าบริการนี้ไม่ใช่บริการโทรศัพท์ และบริการนี้เริ่มต้นหรือรับการติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ รวมถึงการโทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉินผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ผ่านชุมสายสาธารณะ

    • 11 ระยะเวลาและการยุติ

      • 11.1 ระยะเวลาของข้อตกลง ระยะเวลาของบริการจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างตัวแทนจำหน่ายและลูกค้า ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับตลอดระยะเวลา

      • 11.2 การยุติเนื่องจากการละเมิด คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับการปฏิบัติหรือยุติข้อตกลงนี้ไม่ได้หาก (i) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมและเยียวยาการละเมิดนั้นภายในสามสิบวันนับจากได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ได้ (ii) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเลิกดำเนินธุรกิจ หรือต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายโดยนานเกินกว่าเก้าสิบวัน หรือ (iii) คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมเกินกว่าสองครั้งแม้ว่าจะได้มีการเยียวยาการละเมิดแล้วก็ตาม

      • 11.3 ผลของการยุติบริการ หากข้อตกลงนี้ยุติการใช้งาน จะมีผลดังนี้ (i) สิทธิ์ที่ให้แก่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะหยุดลงโดยทันที (ยกเว้นที่กำหนดในหัวข้อนี้); (ii) Google จะให้สิทธิ์ในการเข้าถึงและทำให้ส่งออกข้อมูลของลูกค้าในระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าในอัตรา ณ ขณะนั้นของ Google สำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง (iii) หลังจากระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์ Google จะลบข้อมูลของลูกค้าด้วยการนำตัวชี้ไปยังข้อมูลออกในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานจริงของ Google และเขียนทับเมื่อเวลาผ่านไป (iv) คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะใช้ความพยายามที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อส่งคืนหรือทำลายข้อมูลที่เป็นความลับอื่นๆ ทั้งหมดของคู่สัญญาอีกฝ่ายเมื่อร้องขอ

    • 12 การให้ความคุ้มครอง

      • 12.1 โดยลูกค้า ลูกค้าจะให้การคุ้มครอง ป้องกันและดำเนินการให้ Google พ้นจากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมถึงค่าชำระคดีและค่าทนายความที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดจากการเรียกร้องของบุคคลที่สาม (i) เกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้าและชื่อโดเมนของลูกค้า (ii) ว่าคุณลักษณะตราสินค้าของลูกค้าละเมิดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สาม หรือ (iii) เกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้

      • 12.2 โดย Google Google จะให้การคุ้มครอง ป้องกัน และดำเนินการเพื่อให้ลูกค้าพ้นจากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (รวมถึงค่าชำระคดีและค่าทนายที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดจากการเรียกร้องของบุคคลที่สามว่าเทคโนโลยีของ Google ที่ใช้ในการให้บริการหรือคุณลักษณะตราสินค้าของ Google ละเมิดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สามดังกล่าว แม้ว่าจะมีเงื่อนไขดังที่กล่าวมา ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม Google จะไม่มีภาระหน้าที่หรือความรับผิดภายใต้หัวข้อนี้ที่เกิดขึ้นจาก: (i) การใช้บริการหรือคุณสมบัติของตราสินค้าของ Google ในรูปแบบที่มีการแก้ไขหรือร่วมกับเนื้อหาที่ไม่ได้มาจาก Google และ (ii) เนื้อหา สารสนเทศ หรือข้อมูลที่มาจากลูกค้า ผู้ใช้ปลายทาง หรือบุคคลที่สาม

      • 12.3 การละเมิดที่อาจเกิดขึ้น

        • a. การซ่อมแซม แทนที่ หรือแก้ไข หาก Google มีเหตุอันควรให้เชื่อว่าบริการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการดังนี้: (ก) ขอรับสิทธิ์สำหรับลูกค้า โดยที่ Google แบกรับค่าใช้จ่ายเอง เพื่อดำเนินการใช้บริการต่อไป (ข) ให้ฟังก์ชันการทำงานที่เทียบเท่ากับบริการโดยไม่ละเมิดสิทธิ์ หรือ (ค) แก้ไขบริการเพื่อให้ไม่มีการละเมิดอีก

        • b. การระงับหรือยุติการให้บริการ หาก Google ไม่เชื่อว่าตัวเลือกข้างต้นจะทำได้อย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Google อาจระงับหรือยุติการใช้บริการที่เกี่ยวข้องของลูกค้า หาก Google ยุติการให้บริการที่เกี่ยวข้อง Google จะแจ้งให้ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่าย หรือทั้งสองฝ่ายทราบ

      • 12.4 ข้อกำหนดโดยทั่วไป ฝ่ายที่ขอให้มีความคุ้มครองจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบในทันทีเกี่ยวกับข้อเรียกร้องและร่วมมือกับอีกฝ่ายในการแก้ต่างข้อเรียกร้อง ฝ่ายที่ให้ความคุ้มครองจะควบคุมและมีอำนาจเต็มในการแก้ต่าง ยกเว้น (ก) การระงับคดีที่กำหนดให้ฝ่ายที่ขอให้มีความคุ้มครองยอมรับผิด หรือชำระเงิน จะต้องได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายนั้นก่อน และความยินยอมดังกล่าวจะต้องกระทำโดยไม่รีรอหรือล่าช้าโดยปราศจากเหตุผล และ (ข) อีกฝ่ายเข้าร่วมการแก้ต่างในคดีโดยมีทนายความของตนเองและแบกรับค่าใช้จ่ายเองได้ การให้ความคุ้มครองข้างต้นเป็นการเยียวยาเพียงอย่างเดียวของคู่สัญญานั้นตามข้อตกลงนี้สำหรับการละเมิดโดยอีกฝ่าย สำหรับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม

    • 13 ข้อจำกัดความรับผิด

      • 13.1 ข้อจำกัดความรับผิดทางอ้อม ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการได้ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้ สำหรับกรณีการสูญเสียรายได้ การขาดทุนหรือค่าใช้จ่าย หรือความเสียหายทางอ้อม กรณีพิเศษ กรณีที่เกิดขึ้นเองหรือเป็นผลจากเหตุการณ์อื่น เป็นข้อยกเว้น หรือความเสียหายที่เป็นบทลงโทษ แม้ว่าคู่สัญญานั้นๆ ได้ทราบหรือควรได้ทราบถึงโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย การขาดทุนหรือค่าใช้จ่ายนั้นแล้ว และแม้ว่าการจ่ายค่าเสียหายโดยตรงจะถือเป็นการเยียวยาไม่ได้ก็ตาม

      • 13.2 ข้อจำกัดจำนวนเงินความรับผิด ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการได้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้เกินกว่าจำนวนเงินที่ลูกค้าชำระแก่ตัวแทนจำหน่าย สำหรับบริการในระหว่างช่วงเวลาสิบสองเดือนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นเหตุของความรับผิด

      • 13.3 ข้อยกเว้นของข้อจำกัด อจำกัดความรับผิดเหล่านี้มีผลภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แต่ไม่มีผลกับการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งหรือภาระผูกพันในการให้ความคุ้มครอง

    • 14 เบ็ดเตล็ด

      • 14.1 การแจ้ง ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้ (ก) การแจ้งทั้งหมดจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งถึงฝ่ายกฎหมายและบุคคลที่ติดต่อของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย และ (ข) ถือว่าส่งมอบสมบูรณ์: (i) เมื่อยืนยันด้วยใบรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรหากส่งโดยผู้ให้บริการจัดส่งด้วยบุคคล การจัดส่งข้ามคืน หรือเมื่อได้รับหากส่งทางไปรษณีย์โดยไม่มีการยืนยันการรับ หรือ (ii) เมื่อยืนยันโดยใบรับอัตโนมัติหรือบันทึกอิเล็กทรอนิกส์หากส่งทางโทรสารหรืออีเมล

      • 14.2 การมอบหมายสิทธิ์ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายมอบหมายหรือโอนส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อตกลงนี้ไม่ได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย ยกเว้นแก่บริษัทผู้ร่วมดำเนินการ โดยมีเงื่อนไขดังนี้: (ก) ผู้รับมอบหมายยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีข้อผูกพันตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ และ (ข) ฝ่ายที่มอบหมายยังคงมีความรับผิดต่อภาระหน้าที่ที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงนี้ก่อนที่จะมีการมอบหมาย การพยายามโอนหรือมอบหมายใดๆ จะถือเป็นโมฆะ

      • 14.3 การเปลี่ยนแปลงการควบคุม เมื่อมีการเปลี่ยนการควบคุม (เช่น จากการซื้อหรือขายหุ้น การควบรวมกิจการ หรือธุรกรรมขององค์กรแบบอื่นๆ) นอกเหนือจากการปรับโครงสร้างหรือปรับองค์กรเป็นการภายในของหน่วยงานในเครือ (ก) ฝ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุมจะแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสามสิบวันนับจากการเปลี่ยนแปลงการควบคุม และ (ข) อีกฝ่ายจะยุติข้อตกลงนี้ได้ตลอดเวลาตั้งแต่การเปลี่ยนการควบคุมไปจนครบสามสิบวันนับจากที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อ (ก)

      • 14.4 สิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม คู่สัญญาจะไม่มีความรับผิดต่อผลการปฏิบัติงานที่ไม่เพียงพอ ภายในขอบเขตที่เกิดจากเงื่อนไข (เช่น ภัยพิบัติตามธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย จราจล เหตุการณ์เกี่ยวกับแรงงาน การกระทำของภาครัฐ และความขัดข้องของอินเทอร์เน็ต) ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สมเหตุสมผลของคู่สัญญา

      • 14.5 ไม่มีการสละสิทธิ์ การไม่บังคับใช้ข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ไม่ถือเป็นการสละสิทธิ์ตามข้อบัญญัติ

      • 14.6 การเป็นโมฆะบางส่วน ถ้ามีการชี้ขาดว่าข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ส่วนอื่นๆ ของข้อตกลงจะยังคงมีผลสมบูรณ์

      • 14.7 การไม่ทำให้เกิดตัวแทน คู่สัญญาต่างเป็นผู้รับเหมาอิสระ และข้อตกลงนี้จะไม่ทำให้เกิดตัวแทน พันธมิตรทางธุรกิจ หรือกิจการร่วมค้า

      • 14.8 ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดเจน ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จะทำให้เกิดหรือให้สิทธิ์และผลประโยชน์ซึ่งจะสนับสนุนบุคคลอื่นนอกเหนือจากคู่สัญญาของข้อตกลงนี้

      • 14.9 การชดเชยที่สามารถกระทำได้ ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จำกัดสิทธิ์ของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการแสวงหาการเยียวยาที่สามารถกระทำได้

      • 14.10 กฎหมายที่ควบคุม

        • a. สำหรับลูกค้าที่มีการเรียกเก็บเงินในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ข้อตกลงนี้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนียโดยยกเว้นกฎสำหรับการเลือกกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย สำหรับข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ คู่สัญญายินยอมที่จะยอมรับเขตอำนาจศาลและสถานที่พิจารณาเฉพาะโดยศาลยุติธรรมในซานตาคลาราเคาท์ตี แคลิฟอร์เนีย

        • b. สำหรับลูกค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่มีการเรียกเก็บเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ข้อตกลงนี้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย โดยยกเว้นกฎสำหรับการเลือกกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการประนีประนอมข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ (“ข้อพิพาท”) ภายใน 30 วันหลังจากที่เกิดข้อพิพาทขึ้น หากข้อพิพาทไม่ได้รับการคลี่คลายภายใน 30 วัน ข้อพิพาทดังกล่าวจะต้องได้รับการไกล่เกลี่ยโดยอนุญาโตตุลาการตาม International Centre for Dispute Resolution of the American Arbitration Association และปฏิบัติตาม Expedited Commercial Rules ที่มีผลบังคับ ณ วันที่ของข้อตกลงนี้ โดยจะมีอนุญาโตตุลาการ 1 ท่านที่คัดเลือกตามข้อตกลงร่วมกันของคู่สัญญา การไกล่เกลี่ยจะดำเนินการเป็นภาษาอังกฤษในซานตาคลาราเคาท์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถอุทธรณ์ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอการบรรเทาทุกข์โดยคำสั่งห้ามที่มีความจำเป็นในการปกป้องสิทธิ์ของตนในระหว่างที่รอข้อยุติของอนุญาโตตุลาการ การตัดสินใจใดก็ตามที่มอบให้ไว้โดยอนุญาโตตุลาการจะถือเป็นที่สิ้นสุดและผูกพันคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย และคำตัดสินในเรื่องดังกล่าวอาจมอบให้โดยศาลใดก็ได้ที่มีเขตอำนาจ อนุญาโตตุลาการอาจสั่งให้มีการบรรเทาทุกข์อย่างยุติธรรมหรือโดยคำสั่งห้ามซึ่งสอดคล้องกับการชดเชยและข้อจำกัดต่างๆ ในข้อตกลงนี้ ข้อมูลทั้งหมดที่เปิดเผยอันเกี่ยวข้องกับการชี้ขาด รวมถึงความมีอยู่ของอนุญาโตตุลาการจะถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับซึ่งอยู่ภายใต้บังคับของส่วน 7 ของข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม คู่สัญญาสามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนี้ให้แก่ศาลที่มีความเหมาะสมภายใต้ข้อกำหนดเรื่องการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามที่จำเป็นเพื่อขอการบังคับใช้คำชี้ขาดหรือคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ หรือเพื่อแสวงหาการบรรเทาทุกข์ใดๆ ตามที่ได้รับอนุญาตภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้

      • 14.11 การแก้ไข การแก้ไขใดๆ จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขข้อตกลงนี้

      • 14.12 การมีผลหลังยุติข้อตกลง ข้อต่อไปนี้จะยังคงมีผลหลังจากการหมดอายุหรือการสิ้นสุดข้อตกลง ได้แก่ ข้อ 7, 8.1, 12.3, 13, 14, 15 และ 16

      • 14.13 ข้อตกลงทั้งหมด ข้อตกลงนี้และเอกสารทั้งหมดที่อ้างถึงในที่นี้ เป็นข้อตกลงทั้งหมดของคู่สัญญา เกี่ยวกับหัวเรื่องนั้นๆ และมีผลเหนือข้อตกลงที่มีอยู่ก่อนหน้าหรือในขณะเดียวกันในหัวเรื่องนั้นๆ หากลูกค้าได้รับข้อตกลงที่มีเนื้อหาสาระคล้ายกันในหัวข้อเดียวกันเมื่อเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ ข้อตกลงนี้จะมีผลเหนือกว่าและจะแทนที่ข้อตกลงนั้น ข้อกำหนดใน URL ใดที่อ้างอิงถึงในข้อตกลงนี้ ให้ถือว่ามีการรวมไว้ในที่นี้ด้วย

      • 14.14 การตีความข้อกำหนดที่ขัดแย้งกัน หากมีข้อขัดแย้งระหว่างเอกสารที่ประกอบเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะมีผลบังคับตามลำดับต่อไปนี้: ข้อตกลง และข้อกำหนดที่อยู่ใน URL ใดๆ

      • 14.15 การทำสัญญารับช่วง Google ขอสงวนสิทธิ์ในการทำสัญญารับช่วงสำหรับภาระหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน โดยไม่ต้องมีเอกสารยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย ซึ่งฝ่ายที่ทำสัญญารับช่วงยังคงมีความรับผิดโดยสมบูรณ์สำหรับภาระหน้าที่ที่มีการทำสัญญารับช่วงทั้งหมด และยอมรับความรับผิดโดยสมบูรณ์ระหว่างคู่สัญญาสำหรับการกระทำและ/หรือการละเว้นการกระทำของผู้รับช่วง เสมือนว่าการกระทำและ/หรือการละเว้นการกระทำเป็นของผู้ทำสัญญาเอง

      • 14.16 สัญญาคู่ฉบับ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายทำข้อตกลงนี้เป็นสำเนาที่เหมือนกันทั้งหมดได้ รวมถึงการใช้โทรสาร, PDF, หรือสำเนาอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกันจะถือเป็นเอกสารทางกฎหมาย 1 ฉบับ

    • 15 บริการหลักของ Google Workspace หากลูกค้าซื้อบริการหลักของ Google Workspace ข้อกำหนดต่อไปนี้จะมีผลกับบริการดังกล่าวเท่านั้น

      • 15.1 โฆษณา การตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับบริการเป็นการตั้งค่าที่ไม่อนุญาตให้ Google แสดงโฆษณา ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ในคอนโซลการดูแลระบบ ซึ่งถือเป็นการอนุมัติของลูกค้าให้ Google แสดงโฆษณา หากลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายเปิดใช้งานการแสดงโฆษณา ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายจะเปลี่ยนกลับเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นได้ตลอดเวลา และ Google จะหยุดการแสดงโฆษณา

      • 15.2 ชื่อแทน ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการติดตาม ตอบกลับ และประมวลผลในทางอื่นๆ กับอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทน "abuse" และ "postmaster" สำหรับชื่อโดเมนลูกค้า แต่ Google อาจตรวจสอบติดตามอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทนเหล่านี้สำหรับชื่อโดเมนของลูกค้า เพื่อให้ Google ระบุถึงการละเมิดบริการได้

    • 16 คำนิยาม

      • นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้” หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ของบริการที่พร้อมใช้งานจาก https://workspace.google.com/terms/use_policy.html หรือ URL อื่นที่ Google แจ้งให้ทราบ

      • บัญชีผู้ดูแลระบบ” หมายถึงบัญชีสำหรับการดูแลระบบที่มีให้กับลูกค้าโดย Google หรือแก่ตัวแทนจำหน่ายโดยลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลระบบของบริการ การใช้บัญชีผู้ดูแลระบบจะต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่ง Google จะให้แก่ลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่าย

      • คอนโซลผู้ดูแลระบบ” หมายถึงเครื่องมือออนไลน์ที่ Google จัดหาให้ลูกค้าเพื่อใช้ในการรายงานและฟังก์ชันการดูแลระบบอื่นๆ

      • ผู้ดูแลระบบ” หมายถึงบุคลากรทางเทคนิคที่ลูกค้าแต่งตั้งให้ดูแลบริการที่ให้แก่ผู้ใช้ปลายทางในนามของลูกค้า

      • โฆษณา” หมายถึงโฆษณาออนไลน์ที่ Google แสดงแก่ผู้ใช้ปลายทาง

      • พาร์ทเนอร์” หมายถึงนิติบุคคลที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ในการควบคุมทั้งทางตรงและทางอ้อมระดับเดียวกับคู่สัญญา

      • คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์” หมายถึงชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการบริการ โลโก้ ชื่อโดเมน และคุณลักษณะเฉพาะอื่นๆ ที่เป็นแบรนด์ของคู่สัญญา (ในกรณีของ Google จะรวมถึงคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของหน่วยงานในเครือของ Google ด้วย) ตามที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายถือครองในเวลานั้นๆ

      • ข้อมูลที่เป็นความลับ” หมายถึงข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่ายหนึ่งแก่อีกฝ่ายตามข้อตกลงนี้ที่มีการระบุว่าเป็นความลับ หรือถือเป็นความลับในกรณีปกติตามสถานการณ์นั้นๆ ข้อมูลลูกค้าคือข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า

      • ข้อมูลลูกค้า” หมายถึงข้อมูล ลูกค้า ผู้ใช้ปลายทาง หรือตัวแทนจำหน่ายในนามของลูกค้าในโดเมนขององค์กรจัดหา สร้าง ส่ง หรือแสดงผ่านบริการ

      • ชื่อโดเมนของลูกค้า” หมายถึงชื่อโดเมนที่ลูกค้าเป็นเจ้าของหรือควบคุม ซึ่งใช้ร่วมกับบริการนั้นๆ

      • บริการโดเมน” หมายถึงบริการที่มีให้โดย Google แก่ลูกค้าเพื่อความสะดวกของลูกค้าเท่านั้น โดยที่ลูกค้าจดทะเบียนชื่อโดเมนหรือโอนชื่อโดเมนไปยังพันธมิตรผู้รับจดทะเบียนผ่านส่วนติดต่อที่ Google จัดหาให้ได้ (ตามที่กำหนดในข้อกำหนดบริการโดเมน)

      • ข้อกำหนดการให้บริการโดเมน” หมายความถึงข้อกำหนดที่: https://workspace.google.com/terms/domain_service_terms.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

      • ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน” หมายถึงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ (ก) การใช้บริการของลูกค้าที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดข้องกับสิ่งต่อไปนี้: (i) บริการ (ii) การใช้บริการของลูกค้าคนอื่น (iii) เครือข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของ Google ที่ใช้ในการให้บริการ หรือ (ข) การเข้าถึงบริการโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

      • ผู้ใช้ปลายทาง” หมายถึงบุคคลที่ลูกค้าอนุญาตให้ใช้บริการ

      • บัญชีผู้ใช้ปลายทาง” หมายถึงบัญชีที่ Google โฮสต์ซึ่งลูกค้าเป็นผู้ตั้งผ่านบริการให้กับผู้ใช้ปลายทาง

      • กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออก” หมายถึงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ควบคุมการส่งออกและการส่งออกซ้ำทั้งหมด รวมถึง Export Administration Regulations ("EAR") ที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้ การลงโทษทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ในต่างประเทศของกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้ และ International Traffic in Arms Regulations ("ITAR") ที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาบังคับใช้

      • บริการหลักของ Google Workspace” หมายถึงบริการที่เกี่ยวข้อง (เช่น Google Workspace Premier Edition, Google Workspace หรือ Google ห้องนิรภัย) ที่ลูกค้าซื้อจากตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีคำอธิบายโดยละเอียดที่นี่: https://workspace.google.com/terms/user_features.html หรือ URL อื่นๆ ที่ Google แจ้งให้ทราบ

      • ศูนย์ช่วยเหลือ” หมายถึงศูนย์ช่วยเหลือของ Google ที่เข้าถึงได้จาก https://support.google.com/ หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

      • กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง” หมายถึงการใช้งาน เช่น การปฏิบัติการในหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ การควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือระบบช่วยชีวิต ซึ่งการใช้งานหรือการทำงานล้มเหลวของบริการอาจนำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

      • สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา” หมายถึงสิทธิ์ทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคต ตามกฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายว่าด้วยความลับทางการค้า กฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า กฎหมายว่าด้วยสิทธิ์อันชอบธรรม และสิทธิ์อื่นๆ ที่คล้ายกัน

      • ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace” หมายถึงผลิตภัณฑ์ Google ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ แต่ผู้ใช้ปลายทางอาจเข้าถึงได้โดยลงชื่อเข้าใช้และใช้รหัสผ่านที่มี ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace คือผลิตภัณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ URL https://support.google.com/a/answer/181865 หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

      • ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace” หมายถึงข้อกำหนดใน URL ต่อไปนี้ https://workspace.google.com/terms/additional_services.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราว

      • ที่อยู่อีเมลสำหรับการแจ้งเตือน” หมายถึงที่อยู่อีเมลที่ลูกค้ากำหนดให้เพื่อรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจาก Google ลูกค้าอาจให้ที่อยู่อีเมลของตัวแทนจำหน่ายเพื่อวัตถุประสงค์นี้ หากต้องการ ลูกค้าจะเปลี่ยนที่อยู่อีเมลนี้ได้ผ่านทางคอนโซลการดูแลระบบ

      • ตัวแทนจำหน่าย” หมายถึงตัวแทนจำหน่าย Google Workspace บุคคลที่สามซึ่งลูกค้าชำระเงินให้เพื่อแลกกับการเข้าถึงและใช้บริการ

      • รายการ SDN” คือรายชื่อสัญชาติที่มีข้อกำหนดพิเศษของกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา

      • หน้าบริการ” หมายถึงหน้าเว็บที่แสดงบริการที่ให้กับผู้ใช้ปลายทาง

      • ข้อกำหนดเฉพาะของบริการ”หมายถึงข้อกำหนดระบุบริการมากกว่า 1 บริการที่ https://workspace.google.com/terms/service-terms/

      • บริการ” หมายถึงบริการหลักของ Google Workspace ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี

      • SLA” หมายถึงข้อตกลงระดับการให้บริการสำหรับบริการหลักของ Google Workspace ที่เกี่ยวข้องใน https://workspace.google.com/terms/reseller_sla.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราว

      • ระงับ” หมายถึงการปิดการใช้งานการเข้าถึงบริการหรือองค์ประกอบของบริการในทันที ตามที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้บริการต่อไป

      • ระยะเวลา” หมายถึงระยะเวลาของข้อตกลงซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่มีผล และมีต่อไปตราบเท่าที่ลูกค้าได้รับบริการจาก Google ยกเว้นที่ยุติก่อนหน้านั้นตามข้อตกลง หรือตามข้อตกลงของลูกค้ากับตัวแทนจำหน่าย

      • คำขอของบุคคลที่สาม” หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามสำหรับระเบียนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้ปลายทาง คำขอของบุคคลที่สามอาจเป็นหมายค้นตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายเรียก หรือคำสั่งตามกฎหมายที่มีผลบังคับ หรือความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ปลายทางที่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล

      • TSS” หมายถึงบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่มีให้โดย Google แก่ผู้ดูแลระบบระหว่างระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ TSS

      • หลักเกณฑ์ TSS” หมายถึงหลักเกณฑ์การให้บริการสนับสนุนทางเทคนิคของ Google ที่มีผลสำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง โปรดดูหลักเกณฑ์ TSS ที่ URL https://workspace.google.com/terms/tssg.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

      • ข้อกำหนดของ URL” หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้, SLA (ข้อกำหนดเฉพาะของบริการ) และหลักเกณฑ์ TSS